การทำอะไรเสร็จได้อย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่ใครๆก็ชอบกันทั้งนั้น การทาสีก็เช่นกันครับ ถ้าเราสามารถทาสีรอบเดียวแล้วจบงานได้เลย โดยที่ไม่ต้องทาแบบปกติก็คงเป็นที่ต้องการของทุกๆคน เพราะไม่ต้องเหนื่อยหลายรอบ วันนี้เราจะไปดูกันว่า ทาสีรอบเดียว ได้ไหม? พร้อมแล้วไปดูกันเลย
ทาสีรอบเดียว ได้ไหม?
โดยปกติทั่วไปแล้ว การทาสีจะทาทั้งหมด 3 เที่ยวด้วยกัน คือ ทาสีรองพื้น 1 เที่ยว และทาสีจริง 2 เที่ยว โดยที่การทาสีเที่ยวเดียวแปลว่า สีรองพื้นและสีจริงต้องถูกผสมมาด้วยกันเรียบร้อยแล้วซึ่งฟังดูดีมากๆเลยครับ
สีแบบนั้นมีมั้ย?
จริงๆแล้วสีที่เป็นสีทับหน้าผสมสีรองพื้นก็มีกันอยู่หลายๆแบรนด์ครับ ซึ่งส่วนมากจะเป็นสีน้ำมันครับ เพราะสีน้ำมันการแห้งตัวจะช้าครับ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง โดยเขาจะเป็นแบบ 2 in 1 ครับ เป็นทั้งสีรองพื้นและสีจริงในตัวนั้นเอง
ทาสีรอบเดียวเป็นยังไง?
ผมได้ลองทำการทดสอบทาสีรอบเดียวได้ผลประมาณนี้ครับ
- สีนั้นจะต้องมีความหนืดมากๆ : การทาสีรอบเดียว เเล้วให้กลบฟิล์มสีเดิมนั้น เเสดงว่าสีที่ทาจะต้องหนาพอสมควรเลย การที่เราจะทาให้สีหนาๆได้นั้น เเสดงว่าสีจะต้องหนืดพอสมควร พอสีหนืด การกลิ้งสีในแต่ละครั้งก็จะได้ความหนาตามที่เราต้องการ การกลิ้งสีแบบหนืดอาจจะกลิ้งยากกว่าสีเหลวๆเล็กน้อย เพราะต้องออกแรงในการกลิ้งพอสมควรเลยทีเดียว
- ฟิล์มสีที่ได้ : เมื่อสีหนืดเวลาเรากลิ้งสีหนาๆ สิ่งที่ได้ตามออกมา คือ ฟิล์มสีจะเป็นผิวส้ม คือ ฟิล์มสีจะไม่ค่อยเรียบ เป็นคลื่นๆ ซึ่งทางเป็นผนังภายนอกก็ยังพอโอเคอยู่ แต่ทาเอาไปใช้ทาภายในบ้านจะดูไม่ดีเอาซะเลย
- ไม่ต้องผสมน้ำ : จุดนี้ถือว่าเป็นข้อดีมากๆ เพราะบางทีการทาสีเราก็ขี้เกียจที่จะผสมน้ำ อยากจะเเบบเปิดฝาเเล้วทาได้เลย บางทีผสมน้ำเยอะไปหรือน้อยไป ทำให้การทาแต่ละครั้งได้ความเรียบไม่เท่ากันและก็จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานไปด้วย
- เก็บผนังเลอะ : ถ้าเกิดว่า ผนังบ้านของเราเลอะสิ่งสกปรก เปรอะคราบดำๆ เราจะต้องเเต้มสี เเต่ถ้าเราใช้สีชนิดนี้เเต้ม นั่นหมายความว่า เราเเต้มทั้งรองพื้นและสีทับหน้า ซึ่งความเป็นจริงๆ เราอาจจะเเค่ต้องการเเต้มเฉพาะสีทับหน้า ดังนั้นราคาของสีอาจจะสูงกว่าแต่แค่เล็กน้อยเท่านั้นครับ