หากใครเคยมีประสบการณ์ในการทาสีห้องตัวเองหรือทาสีภายในบ้านและได้ใช้สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมัน สิ่งที่จะต้องเจอกันแน่ๆก็คือ กลิ่นเหม็นตลบอบอวล เเสบตา ชวนเวียนหัวกันไปตามๆกัน ดังนั้นวันนี้ทางแอดมินจะมาแนะนำสีรองพื้นตัวนึงที่นิยมใช้ทาภายในและถ้าเพื่อนๆอ่านบทความนี่จบจะคิดว่า “สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำ รู้งี้ใช้นานแล้ว”
สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำ นี่สิใช่เลย
สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำ คือ น้ำยารองพื้นปูนเก่าที่เราใช้ทาผนังปูนนี่เเหละเเต่สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำจะเหมาะกับการทาภายในอาคารมากกว่าสีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมันโดยทางผมจะเปรียบเทียบข้อแตกต่างของสีรองพื้นทั้ง 2 แบบให้เห็นดังนี้
1.กลิ่นของสีรองพื้น
จุดสำคัญในการเลือกใช้สีรองพื้นคือจุดนี้แหละครับ เนื่องจากสีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำ จะมีกลิ่นที่อ่อนมาก กลิ่นจะคล้ายๆกับสีน้ำทั่วไปเลย เเต่ถ้าเป็นสีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมันเเล้วละก็จะมีกลิ่นที่แรงมากเนื่องจากสีถูกออกแบบมาให้ใช้กับงานภายนอกเป็นหลัก ถ้าเพื่อนๆเลือกมาใช้ทาภายใน รับรองได้ว่ากลิ่นจะเหม็นจนนอนไม่ได้กันเลยทีเดียว
2.การยึดเกาะของฟิล์มสี
ถ้าพูดถึงในเรื่องของการยึดเกาะเเล้ว สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมันจะมีการยึดเกาะ เเทรกซึมที่ดีกว่าสูตรน้ำเเน่นอน เพราะฉะนั้นหากเป็นภายนอกอาคาร แนะนำให้ใช้สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมันเเทน เนื่องจากภายนอกสีเดิมค่อนข้างเสื่อมสภาพเป็นฝุ่นๆ หากทาที่เป็นสูตรน้ำ อาจส่งผลไม่ดีต่อการยึดเกาะของสีใหม่ที่ทาไปแน่นอน ส่วนงานภายในส่วนมากจะไม่เสื่อมสภาพเป็นฝุ่นเท่ากับผนังภายนอก ดังนั้นสีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำก็เพียงพอแล้วครับ
3.การกลบพื้นผิว
สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมันที่เพื่อนๆคุ้นชินกัน จะมีเเต่สีใสๆ เวลาจะทาเปลี่ยนสีผนังแต่ละทีกว่าจะทาสีขึ้นต้องทาหลายรอบแน่ๆ เเต่ปัจจุบันก็มีหลายๆบริษัทผู้ผลิตสี ออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นสีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำให้เป็นสีขาว ซึ่งจะดีกับผู้ใช้งานอย่างเราๆในเรื่องการกลบสีเดิมซึ่งทำได้ดีกว่าสูตรน้ำมันและจะส่งผลให้การทาสีใหม่ทำได้ง่ายขึ้นมากครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้เห็นความแตกต่างของสีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำและสูตรน้ำมัน ซึ่งการใช้งานต้องเลือกให้ถุกกับพื้นที่ งานภายนอกใช้สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมัน งานภายในใช้สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำ เพื่อที่ให้สีที่เราทาอยู่ติดผนังไปนานๆและเพื่อนๆที่ทาสีก็จะได้แฮปปี้กันตามๆไปด้วยนั้นเอง